อาหาร คือ สิ่งที่มีชีวิตบริโภคเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ อาหารมีทั้งที่มาจากสิ่งไม่มีชีวิต เช่น เกลือน้ำ และสิ่งมีชีวิต เช่น พืช สัตว์ และ จุลินทรีย์
อาหาร 5 หมู่ อาหารของคนสามารถแบ่งตามคุณประโยชน์ได้ 5 หมู่ ได้แก่

1.คาโบไฮรเดต ได้แก่อาหารจำพวกข้าว และแป้ง
2.โปรตีนได้แก่อาหารจพวกเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อ นม ไข่ นอกนี้ยังมีอยู่ในพวกพืขอย่างถั่วเหลือง ถั่วเขียวเป็นต้น
3.ไขมันมีทั้งไขมันจากพืช เช่น น้ำมันงา น้ำมันถั่วเหลือง นอกจากนี้ยังมีไขมันจากสัตว์ เช่น น้ำมันปลา น้ำมันหมู
4.วิตามิน ได้แก่อาหารจำพวกผลไม้สดต่างๆ เช่น มะม่วง มะละกอ สับปะรด ฝรั่ง เป็นต้น
5.เกลือแร่ได่แก่อาหารจำพวกผักใบสีเขียว และพืชผักที่มีหัวต่างๆ เช่น ตำลึง ฟักทอง ผักบุ้ง เป็นต้น
อาหารเป็นพิษที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารที่ไม่สะอาด ไม่ปลอดภัยเรามักจะเรียกกันว่า "อาหารเป็นพิษ" ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ที่พบบ่อยที่สุด มาจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มที่เรียกว่า วิบริโอ ทำให้อาหารเป็นพิษที่รู้จักกันโดยทั่วไปก็คือ อหิวาต์เทียม ซึ่งสามารถจำแนกการเจ็บป่วยจาก อาหารเป็นพิษได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ดั้งนี้
อาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ทำให้กระเพาะลำไส้อักเสบ ซึ่งจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องร่วง
อาการติดเชื้อเข้ากระแสโลหิต ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
ประเภทของอาหารอาหารแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
อาหารคาว คือ อาหารที่ทานกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียว เช่น ผัด แกง ต้ม
อาหารหวาน คือ ของว่างที่รับประทานหลังจากรับประทานอาหารคาวเสร็จแล้ว เช่น ขนมต่างๆอาหารเค็ม

ผ้กผลไม้และอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เสริมความแข็งแรง อาหารล้างพิษ 20 อันดับ
สุดยอด 20 อาหารล้างพิษ
คนโบราณและนักโภชนาการมักกล่าวว่า”อาหาร“เป็นยาที่วิเศษที่สุด เพราะเป็นแหล่งรวมของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่ใช่ว่าต้องเป็น อาหารที่มีราคาแพงอย่างเป๋าฮื้อ หูฉลาม รังนก หรือของหายากอย่างดีหมีเท่านั้น ถึงจะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายได้ เพราะจากการศึกษาแล้วพบว่าอาหารที่เราหาได้ตามท้องตลาดในชีวิตประจำวันก็มี ประโยชน์ในตัวไม่ใช่น้อย






ที่สำคัญอาหารเหล่านี้ยังช่วยล้างพิษให้แก่ อวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น ตับ ลำไส้ ไต ผิวหนัง ช่วยป้องกันการจับตัวของสารพิษ รวมถึงช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งสารพิษต่างๆที่สะสมอยู่ในร่างกายอาจมาจากควันพิษในอากาศ สารเจือปนในอาหาร เช่น สีผสมอาหาร สารกันเสีย ยาฆ่าแมลง ปรุงรส เป็นต้น
คราวนี้ลองมาดูกันว่าอาหารชนิดใดสามารถช่วยล้างพิษให้คุณได้บ้าง
เริ่มจากลำดับที่


20 สาหร่าย
พืชสีเขียวในทะเลที่หลายคนมองข้ามคุณประโยชน์ แต่จากการศึกษาของ Mcgill University ที่ Montreal แสดงผลว่าสาหร่ายสามารถจับของเสียจากรังสีที่สะสมในร่างกาย
ใน ปัจจุบันเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงรังสีต่างๆจากคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นไมโครเวฟทั้งหลายได้ ซึ่งพลังงานความร้อนเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งสาหร่ายจะช่วยดูดซึมคลื่นรังสีเหล่านั้น และสามารถจับกับพวกโลหะหนักได้ด้วย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยโปรตีนและเกลือแร่ในปริมาณมาก



19. หัวหอม
ประกอบ ไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งหลายชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยทำความสะอาดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LD ซึ่งไม่ดีเพราะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคหอบ โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และที่สำคัญคือช่วยรักษาโรคเบาหวานโดยช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่


18. มะนาว
เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนจะช่วยล้างพิษ และทำให้เลือดสะอาดขึ้น แต่ถ้านำน้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ก็จะเป็นอาหารที่ช่วยล้างพิษในลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย





17. เมล็ดแฟลกซ์
ประกอบไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็น อย่างโอเมกา 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยบำรุงความจำ และมีผลดีต่อหัวใจเพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีสารอื่นที่ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างการแข็งแรงขึ้น






16. กระเจี๊ยบ
น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบทางเดิน ปัสสาวะ ซึ่งมักก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้มีอาการปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปน หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งสารในกระเจี๊ยบสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเหล่านั้นได้






15. ทับทิม
ตำราแพทย์แผนโบราณของชาวเอเชียกล่าวไว้ว่า การดื่มน้ำทับทิมสามารถรักษาอาการอักเสบและลดความปวดได้ เนื่องจากในผลทับทิมมีสารแอสไพรินซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับแอสไพรินในยา แก้ปวด ช่วยล้างพิษ ลดการติดเชื้อของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย และลดอาการอักเสบ
โดย เฉพาะผู้ที่มีอาการไขข้ออักเสบ ปวดบวม ช้ำ แนะนำให้กินทับทิม เพราะช่วยลดอาการปวดลงได้ ขณะเดียวกันยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น




14. พืชตระกูลถั่ว (เช่นถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว)
จากการศึกษาพบว่าผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วยพืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟ เบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย


13. ขึ้นฉ่าย
ถือว่าเป็นสุดยอดอาหารในการทำความสะอาดเลือดและช่วยลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำ หรือถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายสดในตอนเช้า เพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่ ในขึ้นฉ่ายยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็ง และสารที่ช่วยขับของเสียจากบุหรี่ในคนที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ได้รับควัน บุหรี่ด้วย

12. แครอท
เต็ม ไปด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีน ( Alpha and Beta-carotene ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิตามินเอ และถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษใน สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะช่วยระบบทางเดินประสาท สายตา ผิวหนัง ที่ต้องสัมผัสแสงแดเป็นประจำ และจากการวิจัยพบว่าสารในแครอตช่วยลดการเกิดมะเร็ง และช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจและหัวใจแข็งแรงขึ้น


11. มะเขือพวง
คนไทยนิยมใส่มะเขือพวงในอาหารประเภท ผัดเผ็ด แกงป่า แกงกะทิ และน้ำพริก สมัยก่อนแกงกะทิเช่นแกงไก่ใส่มะเขือพวงเต็มไปด้วย ใส่ไก่น้อยเน้นการกินมะเขือเป็นหลักแต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าม แกงไก่มักใส่ไก่มากกว่ามะเขือ และคนก็เลือกกินแต่ไก่ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนในปัจจุบันมีรูปร่างอ้วนกว่าคนสมัยก่อน
มะเขือ พวงเป็นผักที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งสามารถช่วยดูดซึมไขมันในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยจับไขมันอิ่มตัว (ไขมันอันตราย) และขับออกจากร่างกายโดยระบบขับถ่าย ทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยกำจัดของเสียออกจากระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้นและลดการสะสมของเสีย

10. ส้มโอ หรือเกรปฟรุต
เพราะเป็นผลไม้รสชาติดีจึงได้รับความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อ ร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพราะอาหารและมะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย


9. กระเทียม
จากหลายการศึกษาให้ผลตรงกันถึงคุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดร่างกาย นั่นคือ การกินกระเทียมเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะทำความสะอาดเลือดและระบบลำไส้ ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิต นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไป ซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มีกลิ่นกระเทียมไปด้วย

8. บลูเบอร์รี่
เป็นผลไม้ที่มีค่าแอนติออกซิแดนต์สูงมากชนิดหนึ่งและถือเป็นหนึ่งในสุดยอด อาหารรักษาโรค เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการระคายเคือง สารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ



7. กะหล่ำ
เต็มไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งและอนุมูลอิสระ ( Antioxidant ) และช่วยตับขับฮอร์โมนที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นฮอร์โมนความเครียดที่มีผลเสียต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร รักษาและปกป้องกระเพราะอาหารจากแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ พืชตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี และกะหล่ำปม ผักเหล่านี้ช่วยทำความสะอาดร่างกายและช่วยกำจัดของเสียจากสิ่งแวดล้อม เช่น ของเสียจากควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสีย และช่วยให้ตับผลิตเอนไซม์ออกมาให้เพียงพอในการกำจัดของเสีย

6. บีตรูต
ผักสีแดงที่นิยมใส่ในสลัดนี้นับเป็นผักมหัศจรรย์ซึ่งเประกอบไปด้วยไฟโรเคมี คอล ( Phytochemical ) วิตามินและเกลือแร่หลายชนิด ซึ่งทำให้บีตรูตมีคุณสมบัติต่อต้านชื้อโรค ทำความสะอาดเลือด ตับและระบบน้ำเหลือง อีกทั้งมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น จึงช่วยกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งจากกการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่าบีตรูตช่วยปรับระดับกรด-ด่างในเลือด ให้สมดุลด้วย


5. อะโวคาโด
อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้ออะโวคาโดได้จากตลาดทั่วไป ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน(Glutathione ) ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมีและโลหะหนัก ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ( University of Michigan ) พบว่าผู้สูงอายุซึ่งกินอาหารที่มีสารกลูตาไทโอนสูงจะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ ได้กิน และมีอัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

4. ตำลึง
ผักใบเขียวที่ขึ้นข้างรั้วหาง่าย และราคาไม่แพงนี้ ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใสเนื้อสัตว์น้อยๆ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าแกงจืดตำลึงจะมีตำลึงอยู่ไม่กี่ใบ และมีหมูสับเต็มไปหมด ซึ่งตำลึงมีคุณสมบัติ ช่วยผลิตน้ำดีที่จะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารที่มีอยู่ในตำลึงยังช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย

3. แอปเปิ้ล
ประกอบไปด้วยเพกตินสูง เพกตินเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยจับคอเลสเตอรอลและโลหะหนักในร่างกายที่ ปะปนมากับอาหาร เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมอง นี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินแอปเบิลเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลองยังพบว่าแอปเปิลช่วยขับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก และทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้



2. อัลมอนด์
เป็นถั่วที่มีใยอาหารสูง มีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย แม้จะมีไขมัน แต่ก็เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกายในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึงควร กินอัลมอนด์ นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะเกิดอาการไฮเปอร์ไกลซีเมีย ( Hyperglycemia ) ทำให้รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปกติ หายใจไม่ออก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และหากน้ำตาลในเลือดต่ำที่เรียกว่า ไฮโปไกลซีเมีย( Hypoglycemia )จะทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลม ใจสั่น ไม่มีแรง คิดอะไรไม่ออก

1. กล้วย
มีคุณสมบัติในการบำรุงและสร้างความแข็งแรงแก่กระเพาะอาหาร ในขณะเดียวกันก็ให้เกลือแร่ที่จำเป็นแก่ร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกิออกจากร่างกายโดยช่วยขับของเปลว หรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย












นี่คือความสุดยอดของบ้านเมืองเรา…..ซึ่งบ้านเมืองอื่น..แอบอิจฉา

Miso Soup - ซุปมิโซะ
This vegetarian soup is great for warming you up on cold winter days; although it\'s light, it\'s satisfying and nourishing. Makes four large or six smaller servings.


Steps:
1.
Cut the tofu into 1/2-inch-thick slices and stack between two paper towels. Place the stack between two plates and weight the top plate with a heavy pot or cast-iron skillet.

2.
Allow to drain for 30 minutes. (Image 1)

3.
Bring a small pan with 2 c. water to a simmer and add the shiitakes to it. (Image 2)

4.
Allow to simmer for 2 minutes and then remove from heat. Let the shiitakes soak in the water for 15 minutes.

5.
Bring the carrots and broth to a boil in a large pot. Lower the heat to medium and cook for 9 minutes.

6.
Meanwhile, remove the shiitakes from the soaking water. Strain the water into the carrots and broth.

7.
Slice the shiitakes into thin strips and add to the pot. (Image 3)

8.
Add the bok choy and pepper to the pot and cook for about 4 minutes.

9.
Cut the tofu into small cubes. (Image 4)

10.
Take 1/2 c. of the broth and mix it in a separate bowl with the miso, until smooth. Add this mixture back to the pot along with the tofu and reduce the heat to medium-low.

11.
Cook for another 3 minutes and then serve, garnished with the green onion, sesame oil and seeds.

Tips:

Different misos - red, brown, and yellow are the most common - taste different. In general, the darker the miso, the stronger it is. Experiment with different kinds to see which you like best.

Look for miso in the refrigerated section of a supermarket or Asian market. (Wherever you find tofu, that\'s likely where you\'ll find the miso.)

You can use chicken broth instead of the vegetable broth.

In Japan, miso soup is eaten for breakfast.




น้ำมะเขือเทศกับพริกหวาน

ส่วนผสม

พริกหวานสีแดง น้ำหนักเม็ดละ 170 กรัม 1 เม็ด
มะเขือเทศ นำหนักลูกละ 75 กรัม 2 ลูก
น้ำเชื่อมเข้มข้น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
หยอดสะระแหน่และพริกหวานสีแดงหั่นเส้น
สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1.ล้างพริกหวานและมะเขือเทศให้สะอาด ผ่าพริกหวานออกเป็นสองซีก ฝานเอาเมล็ดและใส้พริกออก หั่นเป็นชิ้นเล็กใส่จาน พักไว้ ส่วนมะเขือเทศผ่าครึ่ง ตักเอาเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ใส่ถ้วย พักไว้
2.ใส่พริกหวานและมะเขือเทศลงในโถปั่น ปิดฝา ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดี๋ยวกัน จึงใส่น้ำเชื่อม เกลือ และน้ำมะนาว ปั่นอีกครั้งพอเข้ากัน รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยยอดสะระแหน่และพริกหวานสีแดงหั่นเส้น เสริมเย็นๆ

หมายเหตุ

ทำน้ำเชื่อมเข้มข้นโดยต้มน้ำ1ถ้วย กับน้ำตาล1ถ้วย
ในหม้อค้วยไฟกลางจนงวดลงเหลือน้ำเชื่อม1ถ้วย ปิดไฟ


ไฟโตเอสโตรเจน คือ เอสโตรเจนจากพืช ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายคลึงกับเอสโตรเจนในคน ช่วยบรรเทาอาการหมดประจำเดือน ต้านเมล็ด ป้องกันหลอดเลือดหัวใจไม่ให้อุดตันและการสูญเสียของกระดูก

ชุปใสเมล็ดแฟลกซ์กับผัก

ส่วนผสม

เนยสดชนิดจืด 1 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับหยาบ 1 หัว
แครอทหั้นลูกเต๋าขนาด 0.5ซม. 1/4 ถ้วย
เมล็ดข้าวโพดหวาน 1/4 ถ้วย
ถั่วแขกหั่นท่อนขนาด 0.5 ซม. 1/4 ถ้วย
มิโสะขาว 1 ช้อนโต๊ะ
เมล็ดแฟลกช์ป่น 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นและพริกไทยป่นปริมาณตามชอบ


วิธีทำ

1.ตั้งกระทะเนยด้วยไฟกลางพอเนยละลาย ใส่หอมใหญ่ลงผัดจนสุกนุ่ม จึงใส่แครอท ผัดพอสุก แร่งเป็นไฟแรงจากนั้นใส่เมล็ดข้าวโพดหวาน ถั่วแขก ผัดพอทั่ว จึงละลายมิโสะกับนำเล็กน้อยใส่ลงไป ตามด้วยเมล็ดแฟล็กซ์ครั้งหนึ่ง เติมนำหรือนำสต็อก คนพอทั่ว ลดเป็นไฟอ่อน เคี้ยวนานประมาณ10นาที หรืจนผักสุกนุ่ม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ปิดไฟ
2.ตักใส่ถ้วย โรยเมล็ดแฟล็กซ์ป่นที่เหลือ เสิร์ฟร้อนๆ (2คนรับประทาน)